อาชญากรรม

 

กรมราชทัณฑ์แจ้งข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องขังหลบหนี

     เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากกรณีผู้ต้องขัง 2 ราย ได้แก่ น.ช.ธวัชชัย มะลิแย้ม ผู้ต้องโทษในคดียาเสพติดและ น.ช.เอกชัย เครือแก้ว ผู้ต้องโทษคดีลักทรัพย์ หลบหนีออกจากเรือนจำกลางเพชรบุรี ขณะเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี    
     วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 พันตํารวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้รับแจ้งจาก พลตำรวจตรี วิศาล พันธุ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ว่าได้ทำการจับกุมผู้ต้องขังหลบหนีได้ คือ น.ช.เอกชัย เครือแก้ว ผู้ต้องโทษคดีลักทรัพย์ โดยสามารถจับได้ที่ ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี                 ส่วน น.ช.ธวัชชัย มะลิแย้ม ผู้ต้องโทษในคดียาเสพติดยังคงหลบหนีอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำกำลังเร่งดำเนินการติดตาม กดดันในพื้นที่ และหาข่าวที่คาดว่าผู้ต้องขังจะไปอาศัยหลบซ่อนตัวอยู่ เพื่อให้ผู้ต้องขังเข้ามามอบตัว คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในอีกไม่นาน จึงอยากแจ้งให้ประชาชนทราบเพื่อคลายความวิตกกังวล
     จึงขอแจ้งและขอความร่วมมือหากผู้ใดพบเห็นนายธวัชชัย มะลิแย้ม สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่เบอร์ 097-9696798 หรือ 032-425014 หรือ 191







***********************************************************************************




 นำโดย พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.สำอาง ขาวสอาด สว.สส สน.ทุ่งสองห้องเมื่อวันที่ 21 พ.ย.60 เวลาประมาณ 01.20 น.ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 50/25 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ผู้รับบาดเจ็บชื่อ นายกุลธวิธ วิสิทธิ์ อายุ 26 ปี ถูกไฟไหม้ขาทั้งสองข้าง จากการสืบสวนสอบสวน ได้ความว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.15 น.นายสุขสันต์ นกศิริ ก้บพวกร่วม 5 คน
ได้มานั่งที่ร้านสาม ล้อ สถานที่เกิดเหตุห่างจากร้านสามล่อประมาณ 600 เมตรก่อนหน้านั้น นายสุขสันต์หรือยืนกับพวกได้มานั่งดึ่มสุราภายในร้านสามล้อ และได้ลุกขี้นเต้นรำภายในร้านสามล้อ เกิดการได้กระทบกระทั่งกันภายในร้าน และได้มีการชกต่อย ซึ่ง นายสุขสันต์ ถูกชกภายในร้าน จึงได้เรียกพรรคพวกเข้ามาช่วยเหลือ แต่มีคนห้ามจึงได้พากันกลับไป โดยนายยืน ได้พูดว่า"กูจะไปเอาของก่อนเดี๋ยวจะกลับมา"หลังจากนั้น นายยีน ได้โทรหานายชนายุทธหรึอซีน ชันทอง และนายธนภัค หรือเพิร์ธ สุพรรณเภสัชให้มาหาที่ร้านสามล้อจากนั้นเวลาประมาณ 01.15 น.นายยีนกับพวกได่เข้าไปร้านสามล้อ เพื่อจะไปหาคู่กรณีแต่ถูกเจ้าของร้านเข้าห้ามปรามพรรคพวกนายยีน พรรคพวกนายยีน จึงได้ออกไปคุมเชิงอยู่บริเวณหน้าร้าน หลังจากนั้น นายกุลธวิธ วิสิทธิ์ ซึ่งได้นั่งอยู่ภายในร้านได้ขับรถออกไปจากร้านไปในซอยชิต 3 และได้มีกลุ่มนายยีน กับพวกได้ขับรถตามไปกระ
แทกรถจักรยานยนต์ของนายกุลธวิธ ล้มลง กลุ่มนายยีน ได้เข้าไปรุมทำร้านนายกุลธวิธ หลังจากนั้นได้มีไฟลุกไหม้ทำให้ ขาทั้งสองข้างของ นายกุลธวิธ ถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาได้นำตัวส่ง รพ.ชลประทาน พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่สืบสวน ได้สืบหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน สามารถพิสูจน์ได้ว่า นายยีน กับพวกได้ร่วมกันกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า จึงได้ร้องขอหมายจับจากศาลอาญา ตามหมายเลข 1,หมายจับ นายภูมิศักดิ์ ศิริมาศ หรือมิก 2,หมายจับ นายปิยะชัย สิริสมานศักดิ์
3,หมายจับ นายสุขสันต์ หรึอ ยีน นกศิริ ต่อมาวันที่ 25 พ.ย.60ได้จับกุม นายภูมิศักดิ์ ศิริมาศ หรือมิก และนายปิยะชัย สิริสมานศักดิ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสึบสวน ดำเนินคดี และวันที่ 27 พ.ย.60 ได้จับกุมนายสุขสันต์ นกศิริ หรือยีนส์เพิ่มเติมนำตัวส่งพนักงาน สวบสวนดำเนินคดีต่อไป




**************************************************************************



   
  วันนี้ (22 พ.ย.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. ได้แถลงผลการจับกุม คนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล

      เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน สน. พญาไท ติดตามจับกุม คนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ  หลังเจ้าที่ตำรวจสน. พญาไท ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำบริเวณถนนราชปรารภระหว่างราชปรารภซอย 4 และ  6 จึงได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

    พบผู้เสียหายคือนางสาวสุกัญญา ผดุงวิทย์อายุ 28 ปี แจ้งว่ามีคนร้าย ลักษณะใส่เสื้อคลุมสีเทาแบบมีฮู๊ด กางเกงขายาวสีดำ ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาวดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกนิรภัยสีขาวเต็มใบ ได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระสิวลีเลี่ยมทอง ของตัวเองไป

   จึงแบ่งกำลังออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายหลบหนีไปอยู่ในชุมชนหลังสถานีรถไฟบางกอกน้อย แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จึงนำกำลังตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวพบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยมีตำหนิรูปพรรณตรงตามที่พูดผู้เสียหาย ยืนยันโดยใช้ก่อเหตุ  และได้แสดงตนเป็นเจ้าของรถ จึงทำการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ดังกล่าว พบพระเลี่ยมทองตำหนิรูปพรรณตรง กับที่พยานแจ้งไว้สอบถาม และยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง พร้อม ทั้งนำเจ้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่ใช้และได้มาจากกระทำผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวมาประกอบการสอบปากคำ จากนั้นพนักงานสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลขออนุมัติหมายจับ นายพิสิฐหรือเบิร์ด ผิวงาม ตามหมายจับศาลอาญา ชุดจับกุมจึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวพร้อมด้วยทรัพย์สินที่ตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวนสน. พญาไทเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น